การเลี้ยงลูกด้วยธรรมะ สร้างภูมิคุ้มกันให้ชีวิต
ความหวังของพ่อแม่ทุกคนนั้นต่างก็ต้องการให้ลูกโตมาเป็นคนดี มีชีวิตที่ดี และมีความสุข ซึ่งการจะให้ลูกโตมาเป็นคนดี มีชีวิตที่ดี และมีความสุขนั้น ต้องทำยังไงบ้าง ก็ถือว่าเป็นปัญหาที่พ่อแม่หลายๆคนอาจจะไม่ทราบ ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดคุยถึงเรื่องการเลี้ยงลูกโดยใช้ธรรมะ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรจะปลูกฝังให้ลูกตั้งแต่ยังเด็กๆ ซึ่งบทความนี้เราจะเสนอเกี่ยวกับ การเลี้ยงลูกด้วยพรหมวิหารธรรม นั่นเอง
การเลี้ยงลูกด้วยพรหมวิหารธรรม
การเลี้ยงลูกนั้น นอกจากความรักจากพ่อแม่แล้ว ยังต้องมีสิ่งอื่นมาเสริมด้วย ได้แก่ ความรู้ ความอดทน และธรรมะ เพื่อใช้ให้เกิดคุณธรรม ศีลธรรมและจริยธรรมให้ประกอบเข้าด้วยกัน ซึ่งหลักธรรมที่จะยกมาใช้ในการช่วยเลี้ยงลูกนั่นก็คือ “หลักพรหมวิหารธรรม” ซึ่งมีอยู่ ๔ ประการ ได้แก่
เมตตา คือ ความรัก ความเอ็นดู ความปรารถนาให้ลูกของเรานั้นมีความสุข ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนต่างก็มีให้กับลูกทุกคน แต่ไม่ควรมากจนเกินไป เพราะจะเป็นการตามใจลูกไปเสียทุกอย่าง อาจทำให้ลูกโตมาเป็นคนเอาแต่ใจได้
กรุณา คือ ความปรารถนาที่จะช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ การเห็นผู้อื่นตกทุกข์แล้วทนเห็นไม่ได้ ต้องรีบหาทางช่วย เพราะพ่อแม่ทุกคนต่างก็ต้องการให้ลูกมีความสุขปราศจากทุกข์ใดๆ ซึ่งพ่อแม่ไม่ควรจะกรุณาลูกมากจนเกินไป เพราะจะกลายเป็นการทำทุกอย่างแทนลูก ทำให้ลูกรักความสบายมากจนเคยตัว
มุทิตา คือ ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี พ่อแม่ทุกคนต่างก็ยินดีและสนับสนุนลูก ถ้าหากสิ่งที่ลูกทำนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ควรที่จะมากเกินไป เพราะจะเป็นการให้ท้ายลูกมากจนเกินไป ทำให้หลงระเริงและเคยตัว
อุเบกขา คือ ความเที่ยงธรรม วางตัวเป็นกลาง ความวางใจอยู่เฉย หากลูกทำผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่มีการเข้าข้างลูก ไม่ให้ความสงสารมาทำให้จิตใจไขว้เขวได้ ซึ่งพ่อแม่ไม่ควรที่จะยึดหลักนี้มากเกินไป เพราะจะกลายเป็นการวางเฉย ไม่สนใจลูก
จะเห็นได้ว่า การเลี้ยงลูกโดยใช้หลักพรหมวิหารธรรมทั้ง ๔ ประการนั้น ต้องมีการใช้ที่ถูกต้อง มีความเหมาะสม ไม่น้อยไม่มากจนเกินไป ให้ยึดถือทางสายกลางช่วยในการเลี้ยงดูลูก ไม่ให้ตึงหรือไม่ให้หย่อนจนเกินไปนั่นเอง จึงจะถือได้ว่าเป็นการเลี้ยงลูกที่ใช้ธรรมะมาช่วย จะทำให้ลูกโตมาเป็นคนดีและมีคุณธรรม