รถยนต์ราคาประหยัดยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าคุณจะเพิ่งขับรถเป็นใหม่ๆ หรือต้องการรถป้ายแดงเกียร์ออโต้ที่ไม่จุกจิกจู้จี้กวนใจ ขายต่อก็ไม่ทำให้บาดเจ็บสาหัสจากราคาที่ไม่หล่นลงเหวเหมือนรถทั่วไปเพราะมันถูกอยู่แล้ว และนี่คือ 6 อันดับ รถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันที่สุด แถมราคาสบายกระเป๋า
6.Toyota Yaris (ราคา 489,000 – 619,000 บาท)
ประหยัดน้ำมันได้สูงสุด 20 กม./ลิตร
Toyota Yaris มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 86 แรงม้า ระบบส่งกำลังแบบ CVT-i ตลอดจนระบบมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกที่สมบูรณ์แบบ พร้อมระบบเบรก ABS/EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA ถุงลมนิรภัยคู่ด้านหน้า และเข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ อันเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น สามารถประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 20 กม./ลิตร
5.Nissan Note (ราคา 568,000 – 640,000 บาท)
ประหยัดน้ำมันได้สูงสุด 20 กม./ลิตร
Nissan Note ใหม่! ครั้งแรกในเมืองไทยกับรถ Hatchback 5 ประตู จากนิสสัน รูปลักษณ์ทันสมัย คล่องตัว กระจังหน้าขนาดใหญ่พร้อมแถบโครเมียม กันชนหน้าทรงสปอร์ต ไฟหน้าโปรโปรเจคเตอร์ แบบ LED (เฉพาะรุ่น) พร้อมไฟส่องเวลากลางวัน LED ภายในกว้างขวางสะดวกสบาย คอนโซลหน้าแบบใหม่ มาตรวัดพร้อมจอ Display อัฉจริยะ เบาะตอนหลังปรับได้หลายรูปแบบ สิ่งอำนวยความครบครันทั้ง และครั้งแรกในรถอีโคคาร์ กับระบบ Intelligent Around View Monitor (AVM) กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร HR12DE ขนาด 3 สูบ 12 วาล์ว CVTC 79 แรงม้า สามารถประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 20 กม./ลิตร
4.Suzuki Swift (ราคา 499,000 – 629,000 บาท)
ประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 23 กม./ลิตร
รถ Eco Car ที่ประสบความสำเร็จและขายดีมากที่สุดอีกรุ่นหนึ่งของ ซูซูกิ ที่โดดเด่นในด้านรูปทรง และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดมาให้กับตัวรถ สำหรับ สวิฟท์ มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส K12B ขนาด 4 สูบ DUALJET DOHC 16 วาล์ว VVT 83 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ใช้งานในเมือง) โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 12-18 กม./ลิตร ดูเหมือนว่า สวิฟท์ จะกินน้ำมันมากหน่อย แต่หากใช้งานนอกเมือง สามารถประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 23 กม./ลิตร เลยทีเดียว
3.Mitsubishi Mirage (ราคา 383,000 – 567,000 บาท)
ประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร
สำหรับ มิตซูบิชิ มิราจ ก็เป็นอีกหนึ่งในรถ Eco Car ที่ได้รับความนิยมในท้องตลาดไม่แพ้กัน ด้วยรูปทรงขนาดน่ารักและกะทัดรัด พกพาสมรรถนะขนาด 1.2 ลิตร 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว MIVEC 78 แรงม้า ให้ทั้งความประหยัดและความแรงในการขับขี่ สำหรับ มิราจ เองนั้น หากใช้งานนอกเมือง วิ่งทางไกล อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยทำได้ถึง 23.8 กม./ลิตร เลยทีเดียว แต่หากใช้งานในเมือง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 15-16 กม./ลิตร
2.Suzuki Celerio ราคา (359,000 – 488,000 บาท)
ประหยัดน้ำมันได้สูงสุด 25 กม./ลิตร
เป็นรถ Eco-Car แฮต์ชแบ็กขนาด 5 ประตูรุ่นแรกที่ในกลุ่มรถประหยัดที่ใช้เครื่องยนต์ K10B 3 สูบ 12 วาล์ว VVT ขนาด 1.0 ลิตร 68 แรงม้า จากการทดสอบวิ่งเฉลี่ยทั้งนอกและในเมือง ณ จังหวัดเชียงใหม่สามารถประหยัดน้ำมันบนมาตรวัดได้สูงถึง 25.5 กม./ลิตร (แต่เมื่อใช้งานในเมือง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 15-16 กม./ลิตร)
1.Mazda2 Diesel (ราคา 680,000 – 789,000 บาท)
ประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.3 กม./ลิตร
มาสด้า2 สกายแอคทีฟใหม่ มาพร้อมตัวถัง 2 แบบ แฮตช์แบ็ก 5 ประตูและซีดาน 4 ประตู รุ่นแรกของโลกที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร ในรถขนาดเล็กของญี่ปุ่นระดับเดียวกัน และแม้จะให้ความประหยัดมากถึง 26.3 กม./ลิตร (ตัวเลขทดสอบจากโรงงานผู้ผลิต) แต่ได้ความแรงจากเครื่องยนต์คอมมอนเรลเทอร์โบ 4 สูบ 16 วาล์ว ขับเคลื่อนล้อหน้า เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดมหาโหดเกินตัวที่ 250 นิวตันเมตร เทียบเท่ารถเบนซินขนาด 2.5 ลิตร ! และยังปล่อยมลพิษ (CO2) ต่ำเพียง 100 กรัม/กม. ผ่านมาตรฐานไอเสีย ยูโร 5 (Euro5)
เครดิตจาก : checkraka