ความรัก…ความเหงา…หรือแค่ต้องการใครสักคน
ความรักเป็นคำง่ายๆ ที่หลายคนคุ้นเคยและอาจจะพร่ำพูดกันบ่อยๆ แต่มันเป็นเรื่องที่พูดให้เข้าใจได้ยากถึงความหมายที่แท้จริง บางคนยังแยกไม่ออกเสียด้วยซ้ำว่าระหว่าง “ความรัก” กับ “ความเหงา” มันต่างกันอย่างไร ความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ในการครองคู่ กับความรักที่บริสุทธิ์มันต่างกันอย่างไร
ซึ่งแรงผลักดันในการที่ทำให้คนอยากมีคู่และแสวงหาคู่มันจึงมาจากหลายปัจจัย บ้างก็เกิดจากแรงผลักดันทางเพศเมื่อฮอร์โมนทำงาน….บ้างก็เกิดจากแรงผลักดันของความเหงา อ้างว้าง เดียวดาย ความต้องการใครสักคน…..บ้างก็เกิดจากแรงผลักดันของสภาพสังคมรอบข้างบีบบังคับ หรือแม้แต่กระทั้งจากแรงผลักดันของปัจจัยทางเศรษฐกิจ แต่จะมีใครบ้างที่แต่งงานได้แต่งงานกันด้วยความรักอย่างแท้จริง?
มีหลายต่อหลายคู่อยู่ด้วยกัน แต่งงานกันโดยที่เค้ายังไม่มีความรักให้แก่กัน…..แต่พออยู่ด้วยกันไปนานๆ มันก็เกิดความเคยชิน….เกิดความคุ้นเคย….เกิดความชินชา….ก็อยู่ๆ กันไปผูกพันกันไป….ก็เลยเข้าใจว่าอยู่ด้วยกันไปนานๆ แล้วความรักมันจะเกิดขึ้น….ซึ่งอันที่จริงแล้วเค้าไม่ได้รักกันมาแต่ต้น หรือไม่สามารถพัฒนาความรู้สึกที่มีให้เป็นความรักได้ในภายหลัง….ก็เลยอยู่ๆ ด้วยกันไปอย่างนั้น….ก็เข้าใจว่านี่แหละความรัก….อาจมีเบื่อๆ บ้างแต่ก็ขาดกันไม่ได้…กลายเป็นความคุ้นเคยกันไป….ซึ่งความรักที่แท้จริงนั้นมันหวานชื่นกว่านั้นมากและไม่มีจืดจางหายไป….วันแรกเคยรักกันอยู่อย่างไรวันสุดท้ายก็ยังหวานชื่นในรักอยู่อย่างนั้น
แต่ก็มีหลายคู่อยู่ด้วยกันไปทะเลาะกันไป…ไม่เข้าใจกัน…ไม่พอใจกัน….ไม่ยอมปรับตัวเข้าหากัน….ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เกิดจากความรักที่มีให้แก่กันยังไม่มากพอ….หรืออาจกล่าวได้ว่ายังไม่รักมากพอที่จะครองคู่กัน….แต่ที่ตัดสินใจครองคู่กันก็เพราะแรงผลักดันต่างๆ ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น….ซึ่งเมื่อแรงผลักดันต่างๆ ลดน้อยลงหรือได้รับการตอบสนองอย่างเต็มที่แล้ว….ก็จะเริ่มเกิดปัญหาชีวิตคู่ตามมา….เกิดความไม่เข้าใจกัน ไม่ใส่ใจกัน ไม่ปรับตัวเข้าหากัน ไม่ยอมกัน จนในที่สุดก็อาจจบลงด้วยการเลิกกันไป หรือประพฤตินอกใจกันในที่สุด
จิตใจของคนเรามันมีซอกหลืบของความคิดที่ซับซ้อน มีความรู้สึกมากมายที่ซ่อนตัวอยู่ในซอกหลืบเหล่านั้น ในความรู้สึกที่เราบอกว่านั้นคือความรัก มันมีอะไรซ่อนอยู่ในนั้นอีกมากมาย…..มีทั้งความเหงา….ความโหยหา…ความต้องการ…..ต้องการสัมผัสรูปกาย….ต้องการปัจจัยฐานะ….ต้องการความมั่นคงของชีวิต….ต้องการเอาชนะ…..ต้องการครอบครองเหนือผู้อื่น….ซึ่งผสมรวมกันอยู่ในความรู้สึกซึ่งเราเหมาเรียกมันไปทั้งหมดว่า “ความรัก” แต่เมื่อตัดความรู้สึกเหล่านั้นออกไปเราจึงจะพบว่าแท้จริงแล้วความรู้สึกที่เราบอกว่ารักนั้น….มันมีความรักแท้ๆ อยู่มากน้อยเพียงใด
บางครั้งที่ว่าคนเหงาสองคนมาเจอกัน…..มันจึงเป็นการสร้างค่านิยมและกำหนดพฤติกรรมในการคบหากันโดยอาศัยเพียงแค่ความต้องการบำบัดความเหงาของตนเองเป็นที่ตั้ง…..เมื่อยังไม่ทันได้ตรองดูในความรู้สึกของตนเอง….ยังไม่ได้แยกแยะความรู้สึกที่แท้จริงของตนเอง….ก็ตัดสินใจไปอยู่กินด้วยกันแล้ว…..ก็เลยเข้าใจว่านี่แหละคือรูปแบบของความรัก
ซึ่งเมื่อความต้องการต่างๆ มันได้รับการตอบสนองอย่างเต็มที่แล้วมันจึงเริ่มมารู้สึกว่าคนๆ นี้อาจจะไม่ใช่คนที่เรารักและต้องการที่จะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน…..สุดท้ายก็อาจจะเลิกกันไป หรือต้องจำฝืนทนอยู่ด้วยกันไปด้วยพันธะที่มี เหมือนสุภาษิตที่กล่าวว่า “ใหม่ๆ น้ำต้มผักก็ยังว่าหวาน เมื่ออยู่ไปนานๆ แม้น้ำผึ้งหวานก็ยังว่าขม” ฉันใดก็ฉันนั้น
หากวันนี้คุณยังไม่เจอกับรักแท้ หรือยังไม่มีรักแท้ให้แก่ผู้ใด….ก็อย่าเพิ่งไปไขว่คว้าหาใครมาผูกมัดด้วยเหตุแห่งความเหงาหรือความต้องการอื่นใด อันจะเป็นการทำให้ใครหลายคนต้องช้ำใจในภายหลัง เพราะเมื่อไหร่ที่คุณเจอคนที่ทำให้คุณรักเค้าอย่างบริสุทธิ์ใจ คุณจะรู้ว่าที่ผ่านมามันไม่ใช่ความรัก และจะรู้ว่ารักแท้นั้นมันละมุนละมัยในความรู้สึกเพียงใด….มันเป็นความอ่อนโยนความเอื้ออาทรให้กัน….เป็นความรักที่จิตใจ มิได้อยู่ที่หน้าตา ฐานะ หรือปัจจัยอื่นใด….เป็นรักแท้ที่ไม่มีจืดจางแม้ลมหายใจสุดท้ายของชีวิต
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ โดย storylog