การให้ธรรมเป็นทานอันประเสริฐยิ่ง
ในพระธรรมบทที่พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงไว้ว่า “สพพทานํ ธมมทานํ ชินาติ” ธรรมทานชนะการให้ทานอื่นทั้งปวง ซึ่งก็คือ การให้ธรรมทานแก่ผู้อื่นนั้นถือว่าเป็นการให้ทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ธรรมทานคืออะไร?
ธรรมทาน คือการให้คำแนะนำหรือการสั่งสอนที่ดีแก่ผู้อื่น หรือการอธิบายให้ผู้อื่นรู้และเข้าใจในเรื่องของบุญบาป และให้ละสิ่งการกระทำบาปหรืออกุศลใดๆทั้งปวง ให้ผู้นั้นยึดมั่นในทางกุศล ปราศจากซึ่งกิเลสใดๆ ซึ่งการให้ธรรมทานเปรียบคือการให้ความรู้ ให้อภัย ให้สติ และให้ข้อคิด
ประเภทของธรรมทาน มีอะไรบ้าง?
ประเภทของธรรมทานนั้นแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ได้แก่ วิทยาทาน และ อภัยทาน
๑. วิทยาทาน คือ การให้ความรู้ ความเข้าใจในสิ่งต่างๆ ซึ่งแบ่งออกเป็นความรู้ทางโลก และความรู้ในทางธรรม
๑.๑ วิทยาทานทางโลก คือ การสั่งสอนให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในเชิงศิลปะวิทยาการ เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ไม่ว่าจะเป็น การเลี้ยงชีพ การช่วยเหลือสังคมและผู้อื่น ซึ่งจะช่วยในการดำเนินชีวิตให้ดียิ่งขึ้น
๑.๒ วิทยาทานทางธรรม คือ การให้ความรู้เกี่ยวกับธรรมะ ซึ่งถือว่าเป็นทานที่ประเสริฐที่สุด เพราะเชื่อว่าการดำเนินชีวิตของคนเรานั้นต้องอาศัยหลักธรรมเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งหากผู้ใดประพฤติปฏิบัติตัวให้ถูกต้องเหมาะสม ชีวิตก็จะพบแต่ความสุขความเจริญ ดังนั้นจึงถือว่า การให้วิทยาทานในทางธรรม หรือจะเรียกว่า ธรรมทาน เปรียบเสมือนการให้ขุมทรัพย์ หรือประทีปส่องทางของชีวิต ให้ดำเนินไปในทางที่ถูกที่ควร นั่นเอง
๒. อภัยทาน คือ การให้ความปลอดภัย การยกโทษ ถือว่าเป็นคุณแก่ผู้ให้ มากกว่าผู้รับ เพราะการให้อภัยถือว่าเป็นการละโทสะกิเลส จะทำให้ผู้นั้นผ่องใส มีจิตใจที่ไม่เคียดแค้นหรืออาฆาตพยาบาทใคร ซึ่งสอดคล้องกับหลักพรหมวิหาร ๔ ทำให้จิตใจผู้นั้นบริสุทธิ์ ปราศจากจิตใจที่มืดมัว
เพราะฉะนั้นแล้วในหลักพระพุทธศาสนา การให้ทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือ “ธรรมทาน” ซึ่งถือว่าเป็นการให้ที่ส่งผลดีต่อผู้ให้และผู้รับ มากกว่าการให้สิ่งของมีค่าหรือสิ่งใดๆทั้งปวง