บอกให้รอก็จะเฝ้ารอ รอเธอไปอย่างนี้ รอจนรู้สึกดีที่จะตอบรัก ต่อให้นานก็จะเฝ้ารอ ไม่ว่าเธอมีคำตอบไหน จะคอยดูแลจะอยู่เคียงข้างไปและทำหน้าที่รอ” เพลง “หน้าที่ของคนรอ” จาก ไอซ์ ความรักมีหลากหลายรูปแบบและมีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันออกไป รักจากความผูกพันแบบเพื่อน รักแรกพบ รักจากการทุ่มเทเอาชนะใจ ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบไหน คงจะมีคำว่า “รอ” แทรกอยู่ในทุกรูปแบบ เราลองมาดูกันนะว่าการ “รอ” กับความรักมีแบบไหนกันบ้าง
1. รอเอาชนะใจอีกฝ่าย
ความรักไม่เหมือนกับการซื้อของ จ่ายเงินไป รับของมาแล้วจบกัน ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่า เมื่อคุณได้ทุ่มเทให้กับความรักแล้ว คุณจะสามารถชนะใจอีกฝ่ายได้หรือไม่ บางคนสมหวัง บางคนผิดหวัง สิ่งสำคัญคือไม่สามารถระบุได้ว่าคุณต้องใช้เวลานานเท่าไร เพราะคนบางคนอาจยอมแพ้ให้กับความทุ่มเทของอีกฝ่าย แต่บางคนก็ไม่สามารถชนะใจอีกฝ่ายได้ เมื่อใดที่คุณทำทุกอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถชนะใจเขาหรือเธอได้นั้น อยากให้คิดซะว่าคุณได้ทำเต็มที่กับความรักครั้งนี้ของคุณแล้ว เรื่องของความรักบังคับกันไม่ได้จริงๆ
2. รอคนมีเจ้าของให้เขาเลิกกัน
เป็นความรักของคนที่มาทีหลัง หรือเรียกได้ว่า “มือที่สาม” นั่นเอง ความรักแบบนี้เกิดจากการให้ความหวัง เพื่อให้คุณรอและทนเพื่อคนๆ นั้นต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการรอที่เลื่อนลอย เพราะกลุ่มคนประเภทนี้มักจะมีข้ออ้างและประโยคหว่านล้อมให้คุณตายใจและมีความหวังกับการรอ เช่น ใกล้จะเลิกกันแล้ว, อดทนเพื่อลูก หรือหลายๆ อย่างที่เป็นแค่ข้ออ้างมากกว่าความจริง
3. รอคนรักเก่าให้กลับมา
การบอกเลิกนั้นนอกจากจะสร้างความเจ็บปวดให้กับคนที่ถูกบอกเลิกแล้ว หลังจากเวลาผ่านไปคนที่ถูกบอกเลิกบางคนก็สร้างความหวังให้กับตัวเอง ว่าคนที่ทิ้งไปนั้นอาจจะกลับมา ซึ่งความหวังจากการรอครั้งนี้ อาจเป็นเพียงการหลอกตัวเองไปวันๆ เท่านั้น สิ่งสำคัญคือ ถ้าเขาคนนั้นที่คุณรอกลับมาจริง คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาจะไม่ทำให้คุณเสียใจด้วยการทิ้งคุณไปอีกก็ได้
4. รอคนรักให้บอกเลิก
เป็นการ “รอ” ที่ค่อนข้างเจ็บปวดของฝ่ายที่ไม่รู้ตัว โดยคน “รอ” นั้นยังคงคบหรือใช้เวลาอยู่ด้วยแบบขอไปที ดูเผินๆ เหมือนจะเป็นคนดีไม่อยากทำให้อีกฝ่ายเสียใจ ทั้งที่ความเป็นจริงคือหมดรักอีกฝ่ายแล้วแต่ไม่กล้าบอกเลิก ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไรก็ตาม แต่การกระทำที่เปลี่ยนไปทุกอย่างเพื่อให้อีกฝ่ายหมดความอดทนและบอกเลิกตนนั้น เพียงแค่ไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนบอกเลิกก่อนเท่านั้นเอง ถ้าคุณหมดรักคนรักของคุณแล้ว อย่าใช้วิธีนี้ในการประวิงเวลาเพื่อให้คุณไม่รู้สึกผิด เพราะมันเป็นการทำร้ายอีกฝ่ายอย่างเลือดเย็น เพราะเมื่อคุณหมดรักอีกฝ่ายนั้น เขาหรือเธอสามารถสัมผัสถึงความรักที่หดหายของคุณได้เช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นการ “รอ” แบบไหน สิ่งสำคัญคือการมีสติและใช้เหตุและผลมากกว่าอารมณ์ ความรักส่งผลให้มีทั้งคนที่สมหวังและผิดหวัง การ “รอ” ก็เป็นหนึ่งในความทรมานที่เกิดจากความรัก คนที่ขอให้ “รอ” อาจไม่รู้สึกเจ็บปวดหรือสำนึกใดๆ มาก เพราะความรู้สึกทั้งหมดจะตกอยู่ที่คน “รอ” อย่าปล่อยให้ใคร “รอ” ถ้าคุณหมดรักหรือไม่ได้รักเขาหรือเธอคนนั้นแล้ว เพราะคนบางคนอาจใช้ทั้งชีวิตเพื่อ “รอ” ความรักจากคุณอยู่ก็เป็นได้
Credit : premiummate